5 ข้อควรรู้ก่อนจ้างบริษัทรับสร้างโรงงาน เมื่ออยากสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง

5 ข้อควรรู้ก่อนจ้างบริษัทรับสร้างโรงงาน เมื่ออยากสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง ตุลาคม 28, 2025 Admin 1:37 pm Home การสร้างโรงงานถือเป็นก้าวสำคัญของผู้ประกอบการที่ต้องการขยับขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม หรือฟาร์มปศุสัตว์ เพราะโรงงานไม่ใช่เพียงสถานที่ผลิตเท่านั้น แต่ยังเป็น “หัวใจของระบบธุรกิจ” ที่สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การวางแผนตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบ ไปจนถึงการเลือกบริษัทรับสร้างโรงงานที่มีความชำนาญและประสบการณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแต่ละขั้นตอนล้วนส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะยาว สารบัญเนื้อหา ข้อที่ 1 : ต้องรู้จักและตรวจสอบข้อมูลของบริษัทรับเหมาก่อสร้างโรงงาน ก่อนเริ่มต้นโครงการสร้างโรงงาน สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ คือ “การเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ” เพราะบริษัทที่ดีไม่เพียงช่วยให้งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงเรื่องงบประมาณ การล่าช้า และปัญหาคุณภาพงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ วางระบบ ไปจนถึงการส่งมอบงานสุดท้าย ทุกอย่างจะง่ายขึ้นหากได้ทีมงานมืออาชีพเข้ามาดูแลตั้งแต่ต้น และเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่รับสร้างโรงงานสามารถตอบโจทย์ได้จริง ผู้ประกอบการควรเริ่มจาก “การตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานและความน่าเชื่อถือของบริษัท” อย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในภายหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ตรวจสอบข้อมูลและความน่าเชื่อถือของบริษัท เริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลและประวัติการดำเนินงานของบริษัทผ่านระบบ DBD e-Service เพื่อดูความมั่นคงและความต่อเนื่องของธุรกิจ รวมถึงควรเลือกบริษัทที่มีสำนักงานจริง สามารถติดต่อได้ชัดเจน และมีช่องทางสื่อสารที่โปร่งใส เช่น เว็บไซต์ทางการ หรือรีวิวจากลูกค้าจริง สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของบริษัทนั้นๆ ได้อย่างดี 2. ประสบการณ์คือสิ่งสำคัญ เพราะในการสร้างโรงงาน ประสบการณ์ของผู้รับเหมาคือหัวใจสำคัญ เนื่องจากการก่อสร้างต้องอาศัยความเข้าใจเชิงเทคนิคทั้งเรื่องของโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ ไปจนถึงมาตรการความปลอดภัย และบริษัทที่มีประสบการณ์มักจะเข้าใจปัญหาในภาคสนามและสามารถให้คำแนะนำได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา เช่น โรงงานที่สร้างเสร็จแล้วหรือโครงการในลักษณะใกล้เคียง เพื่อประเมินมาตรฐานการทำงานของบริษัทนั้น 3. ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากประสบการณ์แล้ว ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นควรเลือกบริษัทรับสร้างโรงงานที่มีทีมงานครบทั้งสถาปนิก วิศวกร และฝ่ายควบคุมงานเพื่อให้สามารถดูแลโครงการได้ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การออกแบบให้เหมาะกับประเภทการผลิต ไปจนถึงการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งช่วยลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของโรงงานได้ในระยะยาว ข้อที่ 2 : ต้องรู้จักรายละเอียดวัสดุที่จะใช้ในการสร้างโรงงาน เพราะวัสดุก่อสร้างถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างโรงงาน ดังนั้นคุณภาพของวัสดุจะส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรง ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของอาคารในระยะยาว โดยโรงงานที่ใช้วัสดุได้มาตรฐานจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและทำให้กระบวนการผลิตดำเนินได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด ฉะนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุทุกชิ้นเหมาะสมและคุ้มค่า เราจึงต้องพิจารณาเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การศึกษาข้อมูล การตรวจสอบมาตรฐาน ไปจนถึงการวางแผนระยะยาว 1. ศึกษาข้อมูลวัสดุอย่างละเอียด เริ่มจากการทำความเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุแต่ละประเภทให้ชัดเจน ทั้งในเรื่องแหล่งที่มา ราคา และความเหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น พื้นที่ผลิตควรใช้วัสดุที่ทนต่อสารเคมี พื้นที่จัดเก็บควรเน้นความแข็งแรงและระบายอากาศได้ดี การเลือกวัสดุที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นจะช่วยลดปัญหาในการก่อสร้างและยืดอายุการใช้งานของโรงงานได้อย่างมาก ซึ่งนอกจากนี้ ควรเปรียบเทียบวัสดุจากหลายแหล่ง เพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าและคุณภาพดีที่สุด เพราะการมีข้อมูลเปรียบเทียบจะช่วยให้เจ้าของโครงการสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุในการสร้างโรงงานได้อย่างมั่นใจและมีเหตุผลรองรับ 2. ตรวจสอบมาตรฐาน มอก. เมื่อได้วัสดุที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย วัสดุบางประเภท เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น หรือกระจกนิรภัยที่ต้องผ่านการรับรองจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อยืนยันความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทรับสร้างโรงงานมืออาชีพให้ความสำคัญอย่างยิ่ง 3. มองภาพรวมในระยะยาว สิ่งสุดท้ายคือควรมองการเลือกวัสดุในมุมของ “การลงทุนระยะยาวในการสร้างโรงงาน” มากกว่าต้นทุนระยะสั้น เพราะวัสดุที่มีคุณภาพสูงอาจมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ดูแลรักษา และเพิ่มความคงทนของอาคารในระยะยาว ทำให้โรงงานสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย คุ้มค่า และพร้อมรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ข้อที่ 3 : ควรรู้ราคากลางและวางงบประมาณอย่างรอบคอบ การวางงบประมาณถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างโรงงาน เพราะต้นทุนแต่ละส่วนตั้งแต่วัสดุ ค่าแรง ไปจนถึงงานระบบ ล้วนมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของอาคารและความคุ้มค่าของการลงทุน การรู้ “ราคากลาง” และทำความเข้าใจโครงสร้างต้นทุนอย่างละเอียด จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนทางการเงินได้แม่นยำ ลดความเสี่ยงเรื่องงบประมาณบานปลาย และควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับขนาดของโครงการ เพื่อให้การวางงบประมาณมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผู้ประกอบการควรเริ่มจากการตรวจสอบและเปรียบเทียบราคากับหลายบริษัทรับสร้างโรงงานเพื่อให้เห็นภาพรวมของต้นทุนในตลาดอย่างชัดเจน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำความเข้าใจเอกสารรายละเอียดงานก่อสร้าง (BOQ) และประเมินต้นทุนตามประเภทของโรงงานที่จะสร้าง 1. ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคา การขอใบเสนอราคาจากบริษัทรับสร้างโรงงาน อย่างน้อย 2–3 แห่ง จะช่วยให้เห็นความแตกต่างของราคา เงื่อนไข และคุณภาพงานอย่างเป็นรูปธรรม การพิจารณาควรดูให้ครบทั้งค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าบริหารจัดการ และค่าออกแบบ เพื่อประเมินว่าราคาที่เสนอมีความสมเหตุสมผลกับเนื้องานหรือไม่ รวมถึงสามารถใช้เปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างผู้รับเหมาด้วยกันได้ 2. ทำความเข้าใจเอกสาร BOQ (Bill of Quantities) BOQ คือเอกสารสำคัญที่แสดงรายละเอียดวัสดุ ปริมาณ และราคาทั้งหมดของงานก่อสร้างโรงงานที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบต้นทุนและคุณภาพของงานได้ตลอดโครงการ อีกทั้งยังเป็นเอกสารที่ใช้ประกอบการขอกู้สินเชื่อจากธนาคาร และใช้ตรวจสอบความถูกต้องของงานเมื่อถึงขั้นตอนส่งมอบ ช่วยให้การควบคุมงบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อที่ 4 : การทำสัญญาจ้างให้รัดกุมและสามารถตรวจสอบได้ เมื่อได้บริษัทรับสร้างโรงงานที่ตรงตามความต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “การทำสัญญาจ้างก่อสร้าง” ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญทางกฎหมายที่ช่วยป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างดำเนินงาน เพราะการทำสัญญาที่รัดกุมไม่เพียงช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีขอบเขตหน้าที่ชัดเจน แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้เจ้าของโครงการว่างานก่อสร้างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และระยะเวลาการส่งมอบงาน สิ่งที่ควรระบุในสัญญา รายละเอียดของคู่สัญญา ขอบเขตของงานก่อสร้าง ระยะเวลาดำเนินการ และงวดการชำระเงิน รายการวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างโรงงาน พร้อมระบุยี่ห้อหรือสเปกให้ชัดเจน เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพหลังส่งมอบงาน เช่น การรับประกันโครงสร้างหรือระบบไฟฟ้า ความชัดเจนคือสิ่งสำคัญ สัญญาที่ดีควรจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร มีการลงนามโดยทั้งสองฝ่าย และควรแนบเอกสารประกอบ เช่น แบบแปลน รายการวัสดุ และตารางเวลาการก่อสร้าง เพื่อให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ หากเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหาย บริษัทรับสร้างโรงงานจะต้องรับผิดชอบดำเนินการแก้ไขตามข้อตกลง และในภาพรวมของการทำสัญญาที่ชัดเจน การทำการตรวจสอบจะช่วยให้กระบวนการสร้างโรงงานเป็นไปอย่างราบรื่น โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งเจ้าของโครงการและผู้รับเหมาในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง ข้อที่ 5 : การตรวจเช็คคุณภาพงานก่อนรับมอบอย่างละเอียด เมื่อกระบวนการสร้างโรงงานดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การตรวจเช็คคุณภาพงานก่อนรับมอบ” เพื่อให้มั่นใจว่าโรงงานที่สร้างขึ้นมีมาตรฐาน แข็งแรง ปลอดภัย และพร้อมใช้งานจริงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และอย่างไรก็ตาม การตรวจเช็คงานให้ได้คุณภาพนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงท้ายเท่านั้น แต่ควรเริ่มตั้งแต่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อควบคุมทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามแบบแปลนและมาตรฐานที่วางไว้ 1. ควรตรวจเช็คงานระหว่างการก่อสร้าง โดยในระหว่างการดำเนินงาน เจ้าของโครงการควรเข้าไปตรวจหน้างานเป็นระยะ เพื่อดูความคืบหน้าและตรวจสอบคุณภาพของวัสดุที่ใช้ การติดตามงานอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาการแก้ไขภายหลัง และทำให้มั่นใจได้ว่างานทุกส่วนดำเนินไปตามแบบแปลนที่วางไว้ 2. ตรวจรับงานขั้นสุดท้าย ก่อนเซ็นรับมอบอาคาร ควรตรวจสอบระบบต่างๆ อย่างละเอียด ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ ระบบระบายอากาศ รวมถึงพื้นและโครงสร้างโรงงาน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกจุดเป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม หากเจ้าของโครงการไม่มีความรู้ทางเทคนิค ควรใช้บริการ “ทีมงานรับสร้างโรงงานอิสระ” แบบ Benjamin ที่ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการวางแปลนสร้างโรงงานไปจนถึงการตรวจรับงานขั้นสุดท้าย เพื่อช่วยให้เจ้าของโครงการมั่นใจได้ว่าโรงงานทุกแห่งจะถูกสร้างขึ้นด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ทั้งด้านโครงสร้าง วัสดุ และระบบภายใน เพื่อให้พร้อมใช้งานทันทีและลดปัญหาการบำรุงรักษาในอนาคต เมื่อการตรวจรับงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การตรวจสอบด้านกฎหมายและมาตรฐานโรงงาน” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้โรงงานของคุณสามารถดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมั่นคงในระยะยาว ข้อควรรู้เพิ่มเติมด้านกฎหมายและมาตรฐานในการสร้างโรงงาน 1. การขออนุญาตก่อสร้างและประกอบกิจการโรงงาน ก่อนเริ่มก่อสร้าง โรงงานทุกประเภทต้องผ่านการตรวจสอบและขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐตามข้อกำหนดใน พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 (และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งแบ่งประเภทโรงงานออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ประเภทที่ 1: เครื่องจักร ≤ 20 แรงม้า และคนงาน ≤ 20 คน → ไม่ต้องขอใบอนุญาต ประเภทที่ 2: เครื่องจักร ≤ 75 แรงม้า และคนงาน ≤ 75 คน → แจ้งประกอบกิจการได้ ประเภทที่ 3: เครื่องจักร > 75 แรงม้า หรือคนงาน > 75 คน → ต้องยื่นขอใบอนุญาต ร.ง.4 การเข้าใจกฎหมายเหล่านี้ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการก่อสร้างได้ถูกต้อง ป้องกันปัญหาการถูกสั่งระงับงานหรือถูกปรับภายหลัง 2. มาตรฐานด้านโครงสร้างและความปลอดภัย การรับสร้างโรงงานทุกแห่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารและมาตรฐานทางวิศวกรรม เช่น ความแข็งแรงของโครงสร้าง ระบบระบายอากาศและการป้องกันเพลิงไหม้ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน การเว้นระยะร่นจากเขตที่ดินตามผังเมือง บริษัท Benjamin ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรับสร้างโรงงาน เรามีทีมสถาปนิกและวิศวกรที่เข้าใจกฎหมายเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงสามารถให้คำปรึกษาและออกแบบโรงงานให้ถูกต้องตามมาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเข้าใจทั้ง “ข้อกฎหมาย” และ “มาตรฐานด้านเทคนิค” จะช่วยให้การสร้างโรงงานเป็นไปอย่างถูกต้อง มั่นคง และลดความเสี่ยงในระยะยาว สรุป : การสร้างโรงงานให้ถูกกฎหมายและคุ้มค่าการลงทุน การเลือกบริษัท รับสร้างโรงงาน ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงในอนาคต โดยเฉพาะกับบริษัท Benjamin ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานออกแบบและก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมครบวงจร ทีมงานของ Benjamin พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนงาน ออกแบบโครงสร้าง จัดเตรียมเอกสารกฎหมาย ไปจนถึงการควบคุมงานก่อสร้างด้วยมาตรฐานวิศวกรรมระดับสากล เพื่อให้ทุกโครงการ “สร้างโรงงาน” ของผู้ประกอบการเป็นไปอย่างถูกต้อง มั่นคง และคุ้มค่าการลงทุนในระยะยาวBenjamin พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เดินเคียงข้างคุณในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง คำถามที่พบบ่อย (FAQ) การสร้างโรงงานควรเริ่มจากอะไรก่อน สิ่งแรกที่ควรทำคือวางแผนโครงการอย่างรอบด้านตั้งแต่การเลือกทำเล ประเภทโรงงาน และงบประมาณ จากนั้นเลือกบริษัทรับสร้างโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และคุ้มค่าการลงทุน ควรวางแผนอย่างไรก่อนสร้างโรงงาน ก่อนเริ่มควรทำความเข้าใจประเภทโรงงานและความต้องการของธุรกิจอย่างชัดเจน จากนั้นวางแผนด้านพื้นที่ ระบบภายใน และการเลือกวัสดุที่เหมาะสม พร้อมปรึกษาบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีประสบการณ์เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และคุ้มค่าการลงทุน ต้องขออนุญาตอะไรบ้างก่อนรับสร้างโรงงาน โรงงานทุกประเภทต้องปฏิบัติตามกฎหมายโรงงานและการควบคุมอาคาร เช่น โรงงานขนาดใหญ่ต้องขอใบอนุญาต ร.ง.4 การเข้าใจกฎหมายตั้งแต่ต้นช่วยให้การสร้างโรงงานถูกต้อง ปลอดภัย และสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง Facebook Twitter WhatsApp บทความและข่าวสาร สาขากรุงเทพฯ 91/9 ตำบล อ้อมเกร็ด อำเภอ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 สาขาตาก 11/23 ถ.อินทรคีรี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก 63110 สาขาเชียงใหม่ 59/56 หมู่ที่ ถนน หมู่บ้านสวนกลางเวียง ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50000 080 495 2929 088 278 8114 BENJAMIN.ENGINEERING2559@GMAIL.COM OUR SOCIAL MEDIA CHANNELS Facebook Instagram Tiktok Envelope Line