ก่อนหน้าที่อาคารสำเร็จรูปจะได้รับความนิยม การสร้างโรงงานมักประสบปัญหาทั้งเรื่องของงบประมาณบานปลาย เวลาก่อสร้างล่าช้า และควบคุมคุณภาพได้ยาก แต่ด้วยนวัตกรรมการก่อสร้างสมัยใหม่ ทำให้การใช้โครงสร้างสำเร็จรูปกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็วและความทนทาน
ในบทความนี้ Benjamin จะพาคุณมาทำความรู้จักกับวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างอาคาร พร้อมวิเคราะห์ว่าแบบไหนทนทานที่สุดและเหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้อย่างมั่นใจ
อาคารสำเร็จรูป (Prefabricated Building) คืออาคารที่มีการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ล่วงหน้าในโรงงาน เช่น โครงสร้างเหล็ก ผนัง พื้น และหลังคา แล้วนำไปติดตั้งหน้างาน ช่วยลดระยะเวลาก่อสร้าง เพิ่มความแม่นยำ และควบคุมคุณภาพได้ดีกว่าระบบก่อสร้างทั่วไป จึงตอบโจทย์ทั้งในด้านต้นทุนและประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการสร้างโรงงานอย่างเร่งด่วน
การเลือกวัสดุในการก่อสร้างอาคารสำเร็จรูปมีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง, ประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งในกรณีของโรงงานหรือโกดังที่มักต้องรองรับเครื่องจักร ขนถ่ายสินค้า หรือการควบคุมสภาพแวดล้อมเฉพาะ การเลือกวัสดุจึงต้องคำนึงถึงคุณสมบัติเชิงเทคนิคเป็นสำคัญ
วัสดุหลักที่นิยมใช้ ได้แก่ :
โครงสร้างเหล็กเป็นวัสดุหลักของระบบอาคารสำเร็จรูป เนื่องจากมีความสามารถในการรับแรงสูง (High Load-Bearing Capacity) ทั้งแรงดึง แรงอัด และแรงเฉือน โดยเฉพาะเหล็กกล้ารีดร้อน (Hot Rolled Steel) ที่มีค่า Yield Strength และ Tensile Strength สูง จึงสามารถรองรับน้ำหนักอาคารและแรงสั่นสะเทือนได้ดี
เป็นวัสดุที่ใช้ในส่วนของผนังและหลังคา โดยประกอบด้วยแผ่นเหล็กเคลือบสีกันสนิมทั้งสองด้าน (Prepainted Galvanized Steel) ประกบกับวัสดุฉนวนตรงกลาง ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิด เช่น
นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงสะท้อนจากเครื่องจักร (Acoustic Performance) และลดค่าใช้จ่ายด้านระบบ HVAC อีกด้วย
แผ่นเมทัลชีทมักใช้เป็นวัสดุปิดผิวภายนอกของหลังคาและผนัง โดยมีคุณสมบัติทนแดด ทนฝน เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทย โดยมีลักษณะเด่น ดังนี้
แม้ไม่ได้เป็นวัสดุหลักในโครงสร้างของอาคารสำเร็จรูป แต่คอนกรีตสำเร็จรูปสามารถใช้ร่วมเพื่อเสริมความแข็งแรงในบางส่วน เช่น
หากเน้นทั้ง “ความทนทาน” + “ความเร็วในการสร้าง” + “ความคุ้มค่าระยะยาว” โครงสร้างเหล็กจะเหมาะกับการสร้างโรงงานมากกว่าในเรื่องของความทนทาน
เช่น หากเป็นโรงงานผลิตอาหาร อาจต้องเน้นการควบคุมอุณหภูมิและความสะอาดสูง ต้องใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติกันเชื้อรา/ต้านแบคทีเรีย
วัสดุที่ถูกตอนสร้างอาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงในระยะยาว ต้องคำนวณ TCO (Total Cost of Ownership)
โรงงานใกล้ทะเลต้องป้องกันการกัดกร่อนจากไอเกลือ ควรใช้วัสดุที่เคลือบกันสนิมพิเศษ เช่น Hot Dip Galvanizing
อาทิ ISO 14001 ด้านสิ่งแวดล้อม, มาตรฐาน GMP สำหรับการผลิต หรือระบบป้องกันอัคคีภัยที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน FM Approved
หากพูดถึงการก่อสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในปัจจุบัน Benjamin มักถูกพูดถึงในฐานะผู้นำด้าน อาคารสำเร็จรูป ที่ผสานนวัตกรรมกับความเชี่ยวชาญไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยประสบการณ์ในวงการก่อสร้างและการคัดสรรวัสดุที่ได้มาตรฐาน เราสามารถส่งมอบงานก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความรวดเร็ว ความแข็งแรง และความคุ้มค่าทางธุรกิจ
หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการสร้างโรงงานด้วยระบบโครงสร้างสำเร็จรูปที่ทั้งประหยัดเวลา แข็งแรง และมีมาตรฐานระดับอุตสาหกรรม ทีมงาน Benjamin ของเรายินดีให้คำปรึกษาและนำเสนอแบบก่อสร้างที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับข้อเสนอพิเศษได้เลย
Bangkok
91 9, Om Kret Subdistrict, Pak Kret District, Nonthaburi 11120
Tak
11/23 Intharakiri Road, Mae Sot Subdistrict, Mae Sot District, Tak Province 63110
Chiang Mai
59 56, Moo 1, Suan Klang Wiang Village, Nong Hoi Subdistrict, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai 50000
บทความและข่าวสาร

รับสร้างโกดังอัจฉริยะปี 2026 สำหรับ E-Commerce SME


ขั้นตอนการขออนุญาตก่ออาคารสำเร็จรูป

โกดัง PEB ดีจริงไหม เจาะลึกความแข็งแรงและอายุการใช้งานจริง