หนึ่งในปัญหาที่ผู้ประกอบการจำนวนมากต้องเจอเมื่อต้องการขยายธุรกิจหรือจัดเก็บสินค้าเพิ่มเติม คือ “การตัดสินใจเลือกรูปแบบของการรับสร้างโกดัง” ที่เหมาะสมกับงบประมาณ เวลา และการใช้งานจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งโกดังสำเร็จรูปที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็ว และโกดังโครงสร้างเหล็กที่เด่นด้านความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในการใช้งาน
แต่หากไม่มีข้อมูลเพียงพอ หรือเลือกแบบผิดตั้งแต่แรก ก็อาจนำไปสู่ต้นทุนที่บานปลาย หรือได้โกดังที่ไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว บทความนี้จึงจะพาคุณมาทำความเข้าใจข้อดีและข้อจำกัดของโกดังทั้งสองรูปแบบเพื่อช่วยให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดกับความต้องการจริง
ในการวางแผนลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจการจัดเก็บสินค้า การเลือกบริการรับสร้างโกดังให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะผู้ประกอบการหลายรายมักมีคำถามว่า ควรเลือกสร้างแบบไหนดีระหว่างโกดังแบบสำเร็จรูปหรือโกดังโครงสร้างเหล็ก
การเลือกใช้บริการรับสร้างโกดังแบบสำเร็จรูป หรือ โกดัง PEB (Pre-Engineered Building) คืออาคารที่ผลิตจากโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป ซึ่งถูกออกแบบ วิศวกรรม และผลิตในโรงงาน ก่อนจะนำมาประกอบที่หน้างาน จุดเด่นของโกดังแบบนี้คือความรวดเร็วในการก่อสร้าง ต้นทุนที่ควบคุมได้ง่าย และประสิทธิภาพด้านการใช้งานที่สูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโกดังพร้อมใช้ภายในระยะเวลาอันสั้น
สำหรับผู้ที่มองหาโครงสร้างที่มั่นคงและมีอายุการใช้งานยาวนาน การเลือกรับสร้างโกดังแบบโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure Warehouse) คือ อีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี เพราะโกดังในลักษณะนี้จะใช้เหล็กกล้าหรือโครงเหล็กเสริมแรงเป็นวัสดุหลัก เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้มาก และทนต่อสภาพอากาศหรือแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่า โดยมีจุดเด่น คือ ความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับโกดังเก็บของขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่ต้องการพื้นที่เฉพาะทาง เช่น ห้องเย็น โกดังโลจิสติกส์ หรือโรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ ข้อเสียคือใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า และมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าแบบสำเร็จรูป
ข้อเปรียบเทียบ | โกดังสำเร็จรูป | โกดังโครงสร้างเหล็ก |
ระยะเวลาก่อสร้าง | ก่อสร้างเร็วมาก (ภายในไม่กี่สัปดาห์) | ใช้เวลานานกว่ามาก (หลายเดือนขึ้นอยู่กับแบบ) |
ต้นทุนรวม | ควบคุมต้นทุนง่าย งบไม่บานปลาย | ต้นทุนแปรผันตามหน้างาน อาจมีงบบานปลาย |
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน | ถอด ย้าย ต่อเติมได้สะดวก | ค่อนข้างถาวร ปรับเปลี่ยนยาก |
ความแข็งแรงทนทาน | แข็งแรงเพียงพอสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ | แข็งแรงสูง เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางหรืออุตสาหกรรมหนัก |
ความสะดวกในการขยายพื้นที่ในอนาคต | ออกแบบเพื่อขยายเพิ่มเติมได้ง่าย | การขยายต้องปรับโครงสร้าง อาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง |
ดีไซน์และความทันสมัย | มีรูปแบบมาตรฐานที่ทันสมัย รองรับการใช้งานทั่วไป | ต้องออกแบบเองทั้งหมด อาจใช้เวลานาน |
เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน | SME, โลจิสติกส์, โครงการระยะสั้น, คลังสินค้าเอนกประสงค์ | โรงงานขนาดใหญ่, ห้องเย็นเฉพาะทาง, โครงสร้างพิเศษ |
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างโกดังแบบสำเร็จรูปและแบบดั้งเดิม การตัดสินใจเลือกใช้บริการรับสร้างโกดังควรอิงกับปัจจัยหลักอย่างวัตถุประสงค์การใช้งาน งบประมาณที่มี และแผนการใช้พื้นที่ในระยะยาวร่วมด้วย
ในขณะที่หากธุรกิจของคุณมีความต้องการเฉพาะทาง เช่น การรองรับน้ำหนักสูงหรือใช้งานต่อเนื่องในระยะยาว โกดังโครงสร้างเหล็กจะเป็นทางเลือกที่ให้ความแข็งแรงมั่นคงมากกว่า แม้จะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างและงบประมาณที่สูงขึ้น
จุดเริ่มต้นของการวางแผนสร้างโกดังควรเริ่มจากการพิจารณาวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น ต้องการใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าทั่วไป สินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ หรือวัสดุขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีผลต่อการออกแบบความสูง รับน้ำหนักพื้น ระบบระบายอากาศ และการขนส่งภายในโกดัง
หากธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัวในอนาคตการเลือกโกดัง PEB ก็สามารถออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและต่อเติมได้ง่าย ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้ดีกว่าแบบที่ต้องรื้อหรือเริ่มก่อสร้างใหม่
เพราะความรวดเร็วและการควบคุมต้นทุนเป็นสิ่งจำเป็นการสร้างโกดังเป็นอย่างมาก โกดังแบบสำเร็จรูปจึงกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เพราะด้วยกระบวนการผลิตชิ้นส่วนล่วงหน้าในโรงงาน ก่อนนำมาประกอบที่ไซต์งาน ช่วยให้ก่อสร้างเสร็จได้ภายในเวลาอันสั้น ที่ไม่เพียงแค่ก่อสร้างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังมีความได้เปรียบเรื่องงบประมาณเพราะสามารถคำนวณต้นทุนล่วงหน้าได้แม่นยำ ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายบานปลาย เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ต้องการโกดังพร้อมใช้งานภายในระยะเวลาอันสั้นได้
แม้โครงสร้างจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การเลือกบริษัทรับสร้างโกดังที่มีประสบการณ์และเข้าใจความต้องการของธุรกิจ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะหากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโกดังสำเร็จรูปเพราะจะสามารถช่วยออกแบบโครงสร้างให้สอดรับกับการใช้งานได้อย่างแม่นยำ ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกวัสดุ การวางผังพื้นที่ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ซึ่งล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการสร้างโกดัง Benjamin บริษัทรับสร้างโกดังชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการก่อสร้างที่คุ้มค่า เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง
เรามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและก่อสร้างโกดังสำเร็จรูป (Pre-Engineered Building – PEB) ที่ได้มาตรฐานวิศวกรรมเป็นอย่างดีพร้อมกับมีทีมงานมืออาชีพที่ดูแลได้ครบทุกขั้นตอนของการทำงาน ตั้งแต่การประเมินความต้องการ ออกแบบโครงสร้าง วางผังพื้นที่ ไปจนถึงการติดตั้งจริงภายในระยะเวลาที่กำหนด
Benjamin เราเข้าใจดีว่า “โกดังที่ดี” ต้องไม่เพียงแค่แข็งแรง แต่ต้องตอบโจทย์ธุรกิจทั้งในวันนี้และอนาคตเพราะไม่ว่าคุณจะต้องการโกดังสำหรับเก็บสินค้า จัดการสต๊อก หรือรองรับการขยายกิจการในอนาคต
มั่นใจในคุณภาพ พร้อมเริ่มต้นสร้างโกดังที่ตอบโจทย์คุณจริง
เลือก Benjamin ผู้เชี่ยวชาญด้านการ รับสร้างโกดัง ที่พร้อมเดินเคียงข้างธุรกิจคุณ
สามารถใช้บริการได้ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างโกดังจะให้คำปรึกษาและออกแบบตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโกดังทั่วไปหรือแบบเฉพาะทางสำหรับธุรกิจแต่ละประเภท
โกดังแบบสำเร็จรูปหรือ PEB เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บอย่างรวดเร็ว เช่น ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก โลจิสติกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ โดยสามารถก่อสร้างได้ในเวลาสั้น ควบคุมต้นทุนได้ง่าย และสามารถปรับฟังก์ชันตามการใช้งานจริงได้เมื่อลงทุนกับผู้ให้บริการรับสร้างโกดังที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
หากมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ โกดังแบบโครงสร้างเหล็กจะเหมาะกว่า เนื่องจากสามารถปรับขนาดความสูงหรือออกแบบโครงสร้างเฉพาะได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Bangkok
91 9, Om Kret Subdistrict, Pak Kret District, Nonthaburi 11120
Tak
11/23 Intharakiri Road, Mae Sot Subdistrict, Mae Sot District, Tak Province 63110
Chiang Mai
59 56, Moo 1, Suan Klang Wiang Village, Nong Hoi Subdistrict, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai 50000
บทความและข่าวสาร

รับสร้างโกดังอัจฉริยะปี 2026 สำหรับ E-Commerce SME


ขั้นตอนการขออนุญาตก่ออาคารสำเร็จรูป

โกดัง PEB ดีจริงไหม เจาะลึกความแข็งแรงและอายุการใช้งานจริง