5 ข้อเปรียบเทียบระหว่างอาคารสำเร็จรูปและอาคารสร้างเอง

5 ข้อเปรียบเทียบระหว่างอาคารสำเร็จรูปและอาคารสร้างเอง

การก่อสร้างมีความหลากหลายและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเริ่มหันมาให้ความสนใจกับ “อาคารสำเร็จรูป” (หรือที่รู้จักในชื่อ PEB: Pre-Engineered Building)  ซึ่งตอบโจทย์ทั้งในด้านเวลา งบประมาณ และความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่มองหาผู้ให้บริการรับสร้างอาคารแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มวางแผน ออกแบบ ไปจนถึงก่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งาน

แม้ว่าปัจจุบันจะมีผู้ให้ทีมที่บริการก่อสร้างอาคารมากมาย แต่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบการก่อสร้าง ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการตัดสินใจของหลายคน

บทความนี้  Benjamin จึงขอพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างของการก่อสร้างทั้งสองรูปแบบผ่านการเปรียบเทียบ 5 ปัจจัยหลัก เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกโซลูชันที่เหมาะสมกับงบประมาณ ระยะเวลา และความต้องการของคุณอย่างแท้จริง

สารบัญเนื้อหา

5 ข้อเปรียบเทียบหลัก: อาคารสำเร็จรูป vs. อาคารสร้างเอง

หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการจำนวนมากต้องเผชิญ คือการเลือกแนวทางการก่อสร้างที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ทั้งในด้านเวลา งบประมาณ และคุณภาพการใช้งานระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการเร่งรัดการเปิดดำเนินงาน การตัดสินใจเลือกระหว่างอาคารสำเร็จรูปและอาคารสร้างเองแบบดั้งเดิมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

Benjamin ขอพาไปรู้จักกับ 5 ข้อเปรียบเทียบเชิงเทคนิคที่ควรทราบก่อนตัดสินใจใช้บริการรับสร้างอาคารไม่ว่าจะเป็นประเภทสำเร็จรูปหรือแบบก่อสร้างตามหน้างาน

1. ความรวดเร็วในการก่อสร้างอาคารสำเร็จรูป

อาคารโครงสร้าง PEB: ใช้ระบบ Precast หรือ Modular Construction

เทคนิคการก่อสร้างแบบ Precast Concrete หรือ Modular Building System ช่วยให้โครงสร้างสำคัญ เช่น ผนัง เสา พื้น ถูกผลิตล่วงหน้าในโรงงาน และขนส่งมายังไซต์งานเพื่อทำการประกอบเข้าด้วยกัน ลดระยะเวลาก่อสร้างลงได้มากกว่า 30–50 % เมื่อเทียบกับการก่อสร้างหน้างานแบบดั้งเดิม

อาคารสร้างเอง: ใช้ระบบ Cast-in-Place ที่ใช้เวลานาน

การก่อสร้างแบบทั่วไปหรือ Cast-in-Place ต้องดำเนินการเทคอนกรีต หล่อเสา คาน และงานโครงสร้างต่างๆ บนพื้นที่จริง จึงมีความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ วัสดุ และแรงงานที่ทำให้เกิดความล่าช้า

2. ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการก่อสร้าง

อาคารโครงสร้าง PEB: ควบคุมต้นทุนได้แม่นยำ

เนื่องจากมีการออกแบบและวางแผนการผลิตชิ้นส่วนอย่างละเอียดก่อนลงมือ อาคารสำเร็จรูปจึงสามารถประเมินงบประมาณล่วงหน้าได้แม่นยำ ลดโอกาสเกิดค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าปรับระยะเวลาก่อสร้าง หรือค่าซ่อมแซมงานที่ไม่ได้มาตรฐาน

อาคารสร้างเอง: มีค่าใช้จ่ายผันผวนตามหน้างาน

แม้สามารถปรับงบประมาณในบางจุดได้ แต่การก่อสร้างหน้างานมีความเสี่ยงที่งบประมาณจะ “บานปลาย” จากปัจจัยไม่คาดคิด เช่น การปรับแบบหน้างาน วัสดุราคาเพิ่ม หรือค่าแรงที่ใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

3. ความยืดหยุ่นในการออกแบบ

อาคารโครงสร้าง PEB: ออกแบบตามโมดูลมาตรฐาน

แม้ว่าระบบโมดูลาร์ในอาคารสำเร็จรูปจะสามารถปรับเปลี่ยนได้บ้าง แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาด การจัดวางพื้นที่ และฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องเป็นไปตามโมดูลหรือกรอบโครงสร้างที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้บางโครงการอาจไม่สามารถออกแบบเฉพาะทางได้เต็มที่

อาคารสร้างเอง: สามารถปรับแบบได้ละเอียดในระดับโครงสร้าง

การก่อสร้างแบบทั่วไปใช้ระบบคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือโครงสร้างเหล็กที่สามารถออกแบบได้ตามความต้องการเฉพาะทาง เช่น โรงงานเฉพาะทาง อาคารอุตสาหกรรมที่ต้องใช้พื้นที่เปิดโล่งสูง หรือระบบระบายอากาศเฉพาะเจาะจง

4. คุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้าง

อาคารโครงสร้าง PEB: ใช้ระบบควบคุมคุณภาพโรงงาน (Factory Quality Control)

หนึ่งในจุดเด่นของอาคารสำเร็จรูป คือการผลิตที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด เช่น การใช้ระบบ QCC (Quality Control Checkpoint) ซึ่งช่วยให้งานก่อสร้างมีคุณภาพสม่ำเสมอ และลดปัญหาที่มักเกิดจากหน้างานจริง ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สภาพอากาศแปรปรวน หรือข้อผิดพลาดจากแรงงานชั่วคราว

อาคารสร้างเอง: ขึ้นอยู่กับฝีมือแรงงานและการบริหารไซต์

คุณภาพของอาคารสร้างเองมีความผันผวนตามประสบการณ์ของผู้รับเหมา วัสดุที่ใช้ และการควบคุมคุณภาพในแต่ละขั้นตอน หากไม่ได้เลือกใช้บริการรับสร้างอาคารกับผู้ที่เชี่ยวชาญและมีระบบตรวจสอบที่ดี อาจเสี่ยงต่อปัญหาโครงสร้างในระยะยาว

5. การบำรุงรักษาและการขยายในอนาคต

อาคารโครงสร้าง PEB: แยกส่วนโครงสร้างได้ รองรับการขยายในอนาคต

อาคารนี้จะถูกออกแบบให้สามารถถอดประกอบหรือเพิ่มโมดูลได้ในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องรื้อถอนโครงสร้างหลักทั้งหมด ช่วยให้การขยายอาคารเป็นไปได้อย่างสะดวก ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

อาคารสร้างเอง: ต้องวางแผนเผื่อไว้ตั้งแต่ต้น

แม้สามารถขยายอาคารได้เช่นกัน แต่การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในอาคารแบบก่อสร้างทั่วไปจำเป็นต้องพิจารณาโครงสร้างรองรับ เช่น ฐานราก เสา และผนัง ซึ่งหากไม่ได้วางแผนไว้แต่ต้น อาจต้องแก้ไขงานใหญ่และใช้ต้นทุนสูงกว่าที่คิด

เลือกอาคารแบบไหนให้ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ พร้อมคำแนะนำจาก Benjamin

สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือองค์กรที่กำลังมองหาผู้ให้บริการรับสร้างอาคาร การทำความเข้าใจข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมของแต่ละรูปแบบ จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างแม่นยำและลดความเสี่ยงในระยะยาว

ข้อได้เปรียบของอาคารสำเร็จรูป

  • ระยะเวลาก่อสร้างสั้นกว่าการก่อสร้างแบบทั่วไป
  • งบประมาณสามารถควบคุมได้ตั้งแต่เริ่มต้น
  • วัสดุและขั้นตอนการผลิตผ่านมาตรฐานโรงงาน
  • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นหรือขยายกิจการอย่างรวดเร็ว

อาคารโครงสร้าง PEB จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการลดความไม่แน่นอนในการก่อสร้าง เช่น โรงงาน โกดัง ศูนย์กระจายสินค้า หรือสำนักงานชั่วคราว

แต่ในบางกรณี อาคารที่ต้องการอาจมีความเฉพาะเจาะจงสูง หรือเน้นความยืดหยุ่นด้านสถาปัตยกรรม เช่น อาคารสำนักงานดีไซน์เฉพาะ อาคารโรงแรม หรือโชว์รูม การใช้บริการก่อสร้างอาคารที่เน้นการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างรายโครงการจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดีของอาคารสร้างเอง

  • ออกแบบได้อิสระตามความต้องการ
  • เลือกใช้วัสดุและเทคนิคเฉพาะทางได้
  • ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในได้อย่างยืดหยุ่น

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าอาคารแบบสร้างเองมีความเสี่ยงด้านระยะเวลาและงบประมาณมากกว่า จึงต้องอาศัยผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และวางแผนอย่างรอบคอบ

สรุประหว่างอาคารสำเร็จรูปและอาคารสร้างเอง

การเลือกว่าจะใช้อาคารแบบใด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัตถุประสงค์ของการใช้งาน งบประมาณ ระยะเวลาที่ต้องการใช้อาคาร รวมถึงพื้นที่ที่มีอยู่

ประเภท

เหมาะกับ

จุดเด่น

อาคารสำเร็จรูป

ธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น คลังสินค้า โรงงาน

ประหยัดเวลา ควบคุมงบประมาณได้

อาคารสร้างเอง

ธุรกิจที่ต้องการดีไซน์เฉพาะ เช่น โรงแรม สำนักงานใหญ่

ออกแบบอิสระ รองรับความต้องการเฉพาะทาง

Facebook
Twitter
WhatsApp